แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 25
1
มิตซูบิชิ ไทรทัน 2024: มิตซูบิชิ Mitsubishi Triton Mega Cab Plus 2.4 Prime ปี 2023
821,000 บาท

มิตซูบิชิ Mitsubishi Triton Mega Cab Plus 2.4 Prime ปี 2023
MITSUBISHI TRITON DOUBLE 2.4 PRIME ตัวถังดีไซน์ใหม่!เมกาเฟรม (Mega Frame) ใหญ่ขึ้น และแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เครื่องยนต์ใหม่ ไฮเปอร์เพาเวอร์ กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ (184 PS) แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร เทอร์โบแปรผัน VG Turbo ช่วงล่างใหม่ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์        Mitsubishi
   รุ่น             มิตซูบิชิ Mitsubishi Triton Mega Cab Plus 2.4 Prime ปี 2023
   ประเภทรถ    รถกระบะ 2 ประตู (แค็บ)
   ปีที่เปิดตัว         2023
   ราคา               821,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
ล้อแม็ก (17 นิ้ว)
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว (LED)
ไฟตัดหมอก (LED)
ไฟหน้า LED
ไฟท้าย LED

   ภายใน
เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้
ตกแต่งภายใน (ซาตินโครม)
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้ (เข้า-ออก)
กระจกมองหลังตัดแสง (อัตโนมัติ)
อุปกรณ์ภายในอื่นๆ (หน้า USB-C / USB-A หลัง USB-C / USB-A)

สเปค
   เครื่องยนต์             เครื่องยนต์คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) เทอร์โบแปรผัน VG Turbo กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)      2,442 CC
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)   184 แรงม้า
   ระบบเกียร์                    เกียร์ธรรมดา 6MT
   รูปแบบเกียร์
   ระบบเบรค ABS             มี (EBD/BA)
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง       ดีเซล, B7
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)       75 ลิตร
   ระบบจ่ายน้ำมัน                 คอมมอนแรล
   น้ำหนักตัวรถ                    -
   ประเภทยางรถยนต์            -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน               ขับเคลื่อนล้อหลัง

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ASC/TCL/Active Yaw Control: AYC)
ตัวถังนิรภัย
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
คานเหล็กเสริมนิรภัย
กล้อง (ขณะถอยหลัง)
เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert - RCTA)
เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HSA
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก

2
อสังหา / หมอออนไลน์: ลมพิษ (Urticaria)
« เมื่อ: 26 สิงหาคม 2024, 19:44:34 pm »
หมอออนไลน์: ลมพิษ (Urticaria)

ลมพิษ เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง เมื่อร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่แพ้ จะสร้างสารแพ้ที่เรียกว่า ฮิสตามีน (histamine) ออกมาจากเซลล์ในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้หลอดเลือดฝอยขยายตัว มีพลาสมา (น้ำเลือด) ซึมออกมาในผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นผื่นนูนแดง

มักมีสาเหตุจากการแพ้อาหาร* (เช่น อาหารทะเล กุ้ง ปลา ไข่ เนื้อสัตว์ ถั่ว มะเขือเทศ ซีอิ๊ว เต้าเจี้ยว เป็นต้น) สารที่ผสมในอาหาร (เช่น ผงชูรส สารกันบูด สีผสมอาหาร) เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ ยา (เช่น แอสไพริน ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ อีนาลาพริล เพนิซิลลิน ซัลฟา เป็นต้น) เซรุ่ม วัคซีน พิษแมลงสัตว์กัดต่อย (เช่น ผึ้ง ต่อ มด ยุง เป็นต้น) ฝุ่น ละอองเกสร ขนสัตว์ นุ่น (ที่นอน หมอน) ไหม หรือสารเคมี (เช่น เครื่องสำอาง สเปรย์ ยาฆ่าแมลง เป็นต้น)

บางรายที่เป็นโรคติดเชื้อ เช่น ทอนซิลอักเสบ หูอักเสบ ท้องเดิน ไซนัสอักเสบ ไตอักเสบ โรคเชื้อรา โรคพยาธิ เป็นต้น ก็อาจมีอาการของลมพิษเกิดขึ้นได้

แต่บางรายก็อาจตรวจไม่พบสาเหตุชัดเจน

ในรายที่เป็นลมพิษเรื้อรัง (เป็นติดต่อกันนานเกิน 2 เดือน) ส่วนมากจะไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด ส่วนน้อยที่อาจพบว่ามีสาเหตุ ซึ่งนอกจากเกิดจากสาเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าว (โดยเฉพาะแอสไพริน ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์) แล้ว ยังอาจมีสาเหตุจากการแพ้ความร้อน ความเย็น (น้ำเย็น น้ำแข็ง อากาศเย็น ห้องปรับอากาศ) แสงแดด เหงื่อ (เช่น หลังจากออกกำลังกาย) น้ำ แรงดัน แรงกด หรือการขีดข่วนที่เกิดกับผิวหนัง การยกน้ำหนัก โรคติดเชื้อเรื้อรัง (เช่น ฟันผุ โรคพยาธิลำไส้ ตัวจี๊ด หูน้ำหนวก)

บางรายอาจเกิดร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่น เอสแอลอี มะเร็ง เป็นต้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้เป็นส่วนน้อย

นอกจากนี้ ความเครียด ความวิตกกังวล และอารมณ์ของผู้ป่วย ก็อาจเป็นสาเหตุของลมพิษเรื้อรังได้ รวมทั้งทำให้อาการลมพิษกำเริบในรายที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ

*อาการแพ้ที่เกิดจากอาหาร เรียกว่า แพ้อาหาร (food allergy) พบได้ในคนทุกวัย แต่พบมากในเด็กเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ (เช่น หวัดภูมิแพ้ หืด ลมพิษ ผื่นคัน) หรือมีพ่อแม่เป็นโรคแพ้อาหาร

สาเหตุ เกิดจากการแพ้สารโปรตีนในอาหาร ส่วนใหญ่ได้แก่ นมวัว ไข่ ปลา กุ้ง หอย ปู ข้าวสาลี ถั่วลิสง ถั่วเหลือง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดอัลมอนด์

อาการ อาการแพ้อาหารอาจเริ่มตั้งแต่วัยทารก โดยหลังกินอาหารที่แพ้จะมีอาการลมพิษ ผื่นคัน หรือผิวหนังบวมคัน อาจมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดินร่วมด้วย บางรายอาจมีอาการคัดจมูก หอบหืด เป็นลม ถ้าเป็นรุนแรงอาจเกิดภาวะช็อกจากการแพ้ (anaphylactic shock)

ทารกที่เป็นโรคนี้ อาการลมพิษผื่นคันจะลดลงเมื่ออายุประมาณ 1 ปี และมักจะหายดีเมื่ออายุประมาณ 10 ปี แต่อาจมีอาการของหวัดภูมิแพ้หรือโรคหืดมากขึ้น

ในผู้ใหญ่ที่แพ้อาหาร มักมีอาการลมพิษ ผื่นคัน บวมคันตามหนังตา รอบปาก บางรายอาจเป็นหวัดภูมิแพ้หรือโรคหืด ในรายที่เป็นรุนแรงแม้กินอาหารที่แพ้ (เช่น กุ้ง หอย ปู ถั่วลิสง) แต่เพียงเล็กน้อยหรือเจือปนอยู่ในอาหารอื่นโดยบังเอิญ ก็อาจมีอาการแพ้รุนแรง เช่น ลมพิษยักษ์ (angioedema) ซึ่งอาจมีอาการบวมของกล่องเสียง (เกิดอาการหายใจลำบาก ตัวเขียว) หรือถึงขั้นช็อกจากการแพ้ เป็นอันตรายได้

การรักษา ให้กินยาแก้แพ้ ถ้าเป็นรุนแรงอาจต้องฉีดยาแก้แพ้หรืออะดรีนาลิน ทางที่ดีผู้ป่วยควรพกยาแก้แพ้และยาฉีดอะดรีนาลินติดตัวไว้ใช้ได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดอาการแพ้อาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกินอาหารนอกบ้าน

การป้องกัน หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ ถ้าแพ้รุนแรงควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารตามร้านอาหารหรืองานเลี้ยง เนื่องเพราะอาจมีอาหารที่แพ้เจือปนโดยบังเอิญ

ในทารกที่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้หรือมีพ่อแม่เป็นโรคแพ้อาหาร ควรกินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด นมวัวควรเริ่มให้เมื่ออายุมากกว่า 1 ปี ควรเริ่มให้กินไข่ เมื่ออายุมากกว่า 2 ปี และเริ่มให้ถั่วลิสงและปลา เมื่ออายุมากกว่า 3 ปี

มารดาขณะตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการกินถั่วลิสง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดอัลมอนด์

มารดาที่ให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการกินกุ้ง หอย ปู ถั่วลิสง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดอัลมอนด์

3

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ







4
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


5
เด็กควรจัดฟันเด็กตั้งแต่อายุเท่าไหร่

การจัดฟัน เป็นการแก้ไขปัญหาในเรื่องของการเรียงตัวของฟัน รวมไปถึงปัญหาฟันสบกันผิดปกติ ฟันซ้อนเก ทำให้มีอุปสรรคในการรับประทานอาหาร รวมไปถึงการเข้าสังคมและยังทำให้มีรอยยิ้มที่ไม่สวยงาม ซึ่งจะเป็นปัญหาในระยะยาวแต่ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ การจัดฟันเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันนอกจากจะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก การจัดฟันยังช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าของผู้เข้ารับการจัดฟันให้เข้ารูปได้อีกด้วย


ดังนั้นการจัดฟันจึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ช่วยปรับปรุงบุคลิกภาพให้ดีขึ้นได้การจัดฟันเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของฟัน ด้วยการใช้เครื่องมือทั้งภายนอกและภายในช่องปากเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการปรับแต่งโครงสร้างของฟันใหม่อย่างช้าๆ โดยปกติแล้วการเคลื่อนของตัวฟันจะมีอัตรา 1 มิลลิเมตรต่อ 1 เดือนนอกจากนี้หลายคนสงสัยว่าทำไมจะต้องเข้ารับการจัดฟันต้องบอกก่อนว่า เนื่องจากฟันของแต่ละคนมีขนาดรูปร่างและการเรียงตัวที่แตกต่างกัน โดยจะมีพันธุกรรมเป็นตัวกำหนด โดยบางครั้งฟันอาจเรียงตัวไม่เหมาะสม จนทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก เช่น สามารถทำความสะอาดฟันได้ลำบากและไม่มีประสิทธิภาพมี ปัญหาในเรื่องของการบดเคี้ยวอาหาร ซึ่งการจัดฟันจะเป็นตัวช่วยทำให้สุขภาพช่องปากและฟันดีขึ้น ช่วยในการบดเคี้ยวอาหารที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและยังลดอัตราเสี่ยงในการเกิดฟันผุหรือการเกิดโรคเหงือกอักเสบได้


และในปัจจุบันมีการพัฒนาในเรื่องของการจัดฟัน ให้มีการจัดฟันในเด็กซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นปกติที่พ่อแม่ผู้ปกครองอยากจะ ให้บุตรหลานของท่านมีสุขภาพช่องปากที่ดี มีฟันสวยและสามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจ ซึ่งโดยปกติพ่อแม่ผู้ปกครอง ควรจะพาเด็กเด็กหรือบุตรหลานไปพบทันตแพทย์ เพื่อทำการตรวจช่องปากเป็นประจำทุกปีเนื่องจากสุขภาพฟันของเด็กนั้นยังมีฟันน้ำนมอยู่ การสูญเสียฟันน้ำนมก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นเดียวกัน เพราะจะมีผลต่อการขึ้นของฟันแท้ หากเด็กเด็กตรวจพบว่ามีการสบฟันที่มีความผิดปกติตั้งแต่ยังเด็กสามารถแก้ไขได้ด้วยการ จัดฟันเพื่อทำให้ป้องกันการเกิดปัญหาการขึ้นของฟันแท้นั่นเอง


วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ซึ่งประเด็นของวันนี้ก็คือ การจัดฟันในเด็กนั้น ควรทำตั้งแต่อายุเท่าไหร่ การจัดฟันแบบเบื้องต้นในเด็กนั้นอาจไม่ได้จำเป็นต่อเด็กทุกคน แต่จะเป็นการดีกว่า หากพ่อแม่ผู้ปกครองพาบุตรหลานไปตรวจกับทันตแพทย์ เพื่อเข้ารับการจัดฟันและสามารถทำได้ในช่วงอายุ7- 10 ปีและหากพบสัญญาณความผิดปกติ ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้แต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในขณะที่ฟันแท้กำลังขึ้นเพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดปกติของการขึ้นของฟันแท้ได้


สำหรับการจัดฟันในเด็ก หลายคนสงสัยว่ามีประโยชน์อย่างไรและจัดฟันทั้งทั้งที่เด็กยังมีฟันน้ำนมอยู่นั้นสามารถทำได้ ด้วยหรือ ต้องบอกก่อนว่าการจัดฟันนั้นไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปากและฟันและความสวยงามของการเรียงตัวของฟัน นอกเหนือจากเรื่องของรอยยิ้มที่จะทำให้มีความสวยงามมีความมั่นใจแล้วการจัดฟันยังจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กได้หลายอย่าง เช่น เมื่อมีฟันที่เรียงตัวกันสวยงาม เด็กก็จะแปรงฟันได้ง่ายขึ้น สามารถทำความสะอาดช่องปากและฟันได้อย่างเต็มที่ เรื่องของความสะอาดภายในช่องปาก ถือเป็นเรื่องสุขอนามัยเบื้องต้นที่จะเด็กจะต้องปฏิบัติ นอกจากนั้นทันตแพทย์ผู้ทำการจัดฟัน อาจมีส่วนช่วยหาทางบำบัดพฤติกรรมเด็กที่ติดการดูดนิ้ว ซึ่งสร้างผลเสียต่อสุขภาพช่องปากและฟันในอนาคตได้ ทั้งยังมีปัญหาในเรื่องของการออกเสียง การหายใจและการเคี้ยวอาหารนั่นเอง


อย่างไรก็ตามหากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดมีความสนใจและต้องการที่จะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถขอรับคำแนะนำได้จากทางคลินิกได้ ทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ด้วยการการันตีถึงประสบการณ์อันยาวนานมากกว่า 10 ปี จะทำให้มั่นใจว่าบุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้ทางคลินิกยังมีบริการทางด้านทันตกรรมอย่างครบวงจรหากพ่อแม่ผู้ปกครองมีความสนใจที่จะเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันก็สามารถขอเข้ารับคำแนะนำได้

6
อสังหา / มอเตอร์โชว์: ฉางอาน CHANGAN-Lumin L-ปี 2024
« เมื่อ: 23 สิงหาคม 2024, 13:41:42 pm »
มอเตอร์โชว์: ฉางอาน CHANGAN-Lumin L-ปี 2024
479,000 บาท

ฉางอาน CHANGAN-Lumin L-ปี 2024
Changan Lumin L ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ด้วยขนาดที่กะทัดรัดและเทคโนโลยีล้ำสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มอบประสบการณ์การขับขี่ที่คล่องตัว มาพร้อมกับแบตเตอรี่ CATL วิ่งได้สูงสุด 301 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จแบบกระแสตรง DC เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน และด้วยรูปทรงที่น่ารักมาพร้อมสีสันสดใส ทำให้ LUMIN เป็น EV City Car ที่โดดเด่นและน่าจับตามอง

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์              CHANGAN
   รุ่น                   ฉางอาน CHANGAN-Lumin L-ปี 2024
   ประเภทรถ          รถเก๋ง 3 ประตู, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว           2024
   ราคา                479,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
ไฟตัดหมอก (หลัง)
ระบบควบคุมระยะการจอด (เซ็นเซอร์ด้านหลัง 2 จุด)
ล้อกระทะ (14 นิ้ว พร้อมฝาครอบ)
ไฟท้าย LED
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (ฮาโลเจน)
อุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ (ระบบเปิดไฟเพื่อช่วยค้าหารถจากรีโมท)
ขนาดยางหน้า-หลัง (165/70R14)

   ภายใน
ตกแต่งภายใน (สีเทาอ่อน-ส้ม)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (Eco/Sport)
พวงมาลัยไฟฟ้า

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า                มอเตอร์ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลัง 48 แรงม้า แรงบิด 83 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 101 กม./ชม. ระยะเวลาการชาร์จแบบ AC (0-100%) ใน 10.5 ชม. พร้อมระบบดึงพลังงานกลับมาใช้ใหม่

   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)    แรงม้า
   ระบบเกียร์                      เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์
   ระบบเบรค ABS               มี
   ชนิดแบตเตอรี่                 ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่                27.98 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง  301
   น้ำหนักตัวรถ                    920 กก.
   ประเภทยางรถยนต์              -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน              ขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP)
เซ็นทรัลล็อค (อัตโนมัติตามความเร็วรถ/ระบบปลดล๊อคอัตโนมัติเมื่อเกิดการชน)
กุญแจรีโมท (กุญแจ Smart Key / Keyless Entry)
ไฟเบรกดวงที่ 3
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบตรวจจับความผิดปกติของลมยาง)
เข็มขัดนิรภัย (ด้านหน้าล๊อก 3 จุด)
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HHC)
กล้อง (มองหลัง)
เสียงเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย (ด้านคนขับ)

7
อสังหา / bigbike ไทรอัมพ์ Triumph Daytona 660 (Standard) ปี 2024
« เมื่อ: 22 สิงหาคม 2024, 21:53:05 pm »
bigbike ไทรอัมพ์ Triumph Daytona 660 (Standard) ปี 2024
327,300 บาท 

ไทรอัมพ์ Triumph Daytona 660 (Standard) ปี 2024
Triumph Daytona 660 รถจักรยานยนต์สปอร์ตขนาดกลางที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์สามสูบใหม่ล่าสุดขนาด 660 ซีซี ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์ มอบสมรรถนะสไตล์สปอร์ตอันน่าตื่นเต้น การขับขี่แบบไดนามิก ตลอดจนประสิทธิภาพ ขีดความสามารถ และสเปคสูงสุดในกลุ่มรถจักรยานยนต์ระดับเดียวกัน ถือเป็นอีกหนึ่งชื่อรถจักรยานยนต์ในตำนานที่ถือกำเนิดใหม่อีกครั้งเพื่อผู้ขับขี่รุ่นใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สามสูบใหม่ขนาด 660 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 69 นิวตันเมตร พร้อมชุดเกียร์ 6 สปีด เสริมด้วยท่อไอเสียใหม่ ซึ่งมีส่วนหัวแบบ 3 ออก 1 และท่อเก็บเสียงด้านล่างขนาดกะทัดรัด พร้อมส่วนปิดท้ายจากสเตนเลสสตีล ทำให้เครื่องยนต์สามสูบของเดย์โทน่า 660 จึงส่งมอบเสียงสไตล์สปอร์ตอันทรงพลัง ทั้งนี้มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สี Carnival Red/Sapphire Black สี Satin Granite/Satin Jet Black และสี Snowdonia White/Sapphire Black

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์              Triumph
   รุ่น                   ไทรอัมพ์ Triumph Daytona 660 (Standard) ปี 2024
   ประเภทรถ          รถสปอร์ตขนาดกลาง
   ปีที่เปิดตัว           2024
   ราคา                327,300 บาท

สเปค
   รูปแบบเกียร์                เกียร์ธรรมดา
   ระบบเกียร์                  6 เกียร์
   รายละเอียดเครื่องยนต์    เครื่องยนต์ 3 สูบ แบบ DOHC 12 วาล์ว
   ระบบระบายความร้อน     น้ำ
   ระบบสตาร์ท               สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)   660 CC
   แบบเครื่องยนต์            4 จังหวะ
   ระบบจุดระเบิด
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง     เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), แก๊สโซฮอล์ 91, เบนซิน 95
   ระบบจ่ายน้ำมัน             หัวฉีด (ระบบควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่องแบบ Multipoint พร้อมควบคุมคันเร่งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์)
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)     14 ลิตร
   ระบบกันสะเทือน           ล้อหน้า โช้คหัวกลับ Showa ขนาด 41 มม. ลูกสูบขนาดใหญ่แยกฟังก์ชัน (SFF-BP) ระยะยุบตัวล้อ 110 มม., ล้อหลัง โช้คหลัง RSU แบบโมโนช็อคของ Showa รองรับการปรับตั้งค่าพรีโหลด, ระยะยุบตัวล้อ 130 มม.

   ระบบเบรค                  ล้อหน้า ดิสก์เบรก (จานเบรกคู่แบบลอยตัวขนาด 310 มม. คาลิปเปอร์แบบเรเดียล 4 ลูกสูบ พร้อมระบบเบรก ABS), ล้อหลัง ดิสก์เบรก (จานเดี่ยวขนาด 220 มม. คาลิปเปอร์แบบลูกสูบเดี่ยว พร้อมระบบเบรก ABS)
   แบบวงล้อ                  aluminum
   ขนาดยาง                  ล้อหน้า 120/70 ZR 17, ล้อหลัง 180/55 ZR 17
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.)       -x736x1145.2 มม. เบาะสูง 810 มม.
   น้ำหนักตัวรถ                         210.00 กก.

8
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/

https://www.noisecontrol365.com/album/banner/436f7c471a7669f110977c234346e19e.jpg

9
บริการด้านอาหาร: โรคลำไส้แปรปรวน ควรเลือกรับประทานอาหารอย่างไรให้เหมาะสม!

การดูแลสุขภาพของเราให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ถือว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญมาก โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ยังอยู่ในช่วงของการมีโรคระบาดที่รุนแรง และเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายถึงชีวิต ซึ่งการดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหาร ถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด เพราะปกติแล้ว คนเราจะต้องรับประทานอาหารทุกวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหาร เพื่อเปลี่ยนไปเป็นพลังงานให้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดังนั้น อาหารจึงมีส่วนและมีผลกระทต่อการดำรงชีวิตของเรา หากเรารับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือมีพฤติกรรมการับประทานอาหารที่ผิดแน่นอนว่า จะทำให้เรามีปัญหาสุขภาพ และถ้าเรามีปัญหาสุขภาพ ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น เราควรเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย


นอกจากนี้ อาหารที่เรารับประทานในแต่ละวันยังมีผลต่อการกำหนดประเภทและความหลากหลายของแบคทีเรียในลำไส้ เพราะฉะนั้น การหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจก่อให้เกิดความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร ก็จะเป็นเรื่องที่ดี และมีส่วนช่วยลดอาการลำไส้แปรปรวนหรือลำไส้ระคายเคืองได้ ต้องบอกเลยว่า โรคลำไส้แปรปรวน เป็นโรคที่ส่งผลให้การทำงานของลำไส้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ โดยจะมีอาการแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางรายอาจมีอาการท้องเสีย ท้องผูก หรือมีอาการท้องเสียและท้องผูกสลับกัน ทั้งนี้ อาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอาจขัดขวางการใช้ชีวิตประจำวัน อีกทั้ง โรคนี้มักมีอาการเกิดขึ้นตลอดชีวิต และปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด ซึ่งถือว่าเราจะต้องระมัดระวังในการรับประทานอาหารให้มากยิ่งขึ้น

 
วันนี้ทางเราจะมาพูดถึงเรื่องของการเลือกรับประทานอาหาร สำหรับคนที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวน เพื่อให้การรับประทานอาหารมีความเหมาะสมกับอาการป่วยและยังดีต่อลำไส้อีกด้วย สำหรับอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยลำไส้แปรปรวน คืออาหารที่มีไฟเบอร์สูงอย่าง ผัก ผลไม้และธัญพืชเต็มเมล็ด จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถขับถ่ายได้ดีขึ้นและป้องกันอาการท้องผูก แต่หากผู้ป่วยมีอาการท้องอืดเนื่องจากการรับประทานไฟเบอร์จากธัญพืชมากเกินไป ควรเน้นผักและผลไม้แทน แต่อย่างไรก็ตาม อาหารที่มีไฟเบอร์ต่ำ ผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนที่มีอาการท้องเสีย ก็ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากเกินไป เพราะอาจส่งผลให้อาการท้องเสียรุนแรงขึ้น ควรรับประทานแอปเปิล เบอร์รีชนิดต่าง ๆ แครอท หรือข้าวโอ๊ต


เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีใยอาหารที่ละลายน้ำ เพื่อไม่ให้ปริมาณไฟเบอร์ในร่างกายมากเกินไป ต่อมาคือ อาหารไขมันต่ำ โดยทั่วไปอาหารที่มีไขมันสูงจะมีปริมาณไฟเบอร์ต่ำ ซึ่งเป็นอาหารที่ทำให้อาการของโรคลำไส้แปรปรวนรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสียและท้องผูกรวมกัน ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ จะช่วยให้ลำไส้สามารถทำงานได้ดีขึ้นจึงควรรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่มีไขมัน ผัก ผลไม้ ธัญพืชและผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำ สำหรับอาหารที่ควรเลี่ยง ก็ได้แก่ กาแฟ ช็อกโกแลต น้ำอัดลม การรับประทานเส้นใยอาหารชนิดไม่ละลายในน้ำ เช่น แป้งโฮลวีท รำข้าวสาลี ดอกกะหล่ำ และมันฝรั่ง ถั่วชนิดต่าง ๆ อาหารแปรรูปอย่างมันฝรั่งทอดและคุ้กกี้ หมากฝรั่งไม่มีน้ำตาล ของทอด และไม่ควรรับประทานอาหารปริมาณมากในแต่ละมื้อ   


นอกจากนี้ ควรทดลองหลีกเลี่ยงอาหารที่เสี่ยงต่อการกระตุ้นให้เกิดอาการ เริ่มจากการลองงดการรับประทานอาหารแต่ละชนิดเป็นเวลา 12 สัปดาห์และทดลองครั้งละ 1 อย่าง และบันทึกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก่อนการทดลองกับอาหารชนิดต่อไป ที่สำคัญควรออกกำลังกายและผ่อนคลายร่างกายไปพร้อมกับการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร เช่น เดิน ปั่นจักรยาน และควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียดและรับประทานอาหารอย่างไม่เร่งรีบ เพียงเท่านี้ ก็จะสามารถช่วยให้อาการของลำไส้แปรปรวนดีขึ้นได้

 
อย่างไรก็ตาม เราทุกคนควรพยายามรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และรับประทานในแต่ละหมู่ให้มีความหลากหลาย  ไม่จำเจอยู่เพียงอาหารไม่กี่ชนิด  เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารต่างๆ ครบในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ทางเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี ซึ่งเน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญควรจะหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บด้วย

10
หมอออนไลน์: กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่ชนิดหลายถุง/พีซีโอเอส (Polycystic ovary syndrome/PCOS)

กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่ชนิดหลายถุง/พีซีโอเอส (Polycystic ovary syndrome/PCOS)*  ประกอบด้วยภาวะไม่มีไข่ตก (anovulation) ซึ่งทำให้ประจำเดือนขาดหรือไม่สม่ำเสมอ มีบุตรยาก ภาวะฮอร์โมนเพศชายในเลือดสูง (hyperandrogenemia) ซึ่งทำให้มีขนดก หนวดขึ้น สิวขึ้น หน้ามัน และภาวะรังไข่มีลักษณะเป็นถุงน้ำ (cyst) ขนาด 2-6 มม. จำนวนมากทั้ง 2 ข้าง

พบได้ประมาณร้อยละ 5-10 ของผู้หญิงโดยทั่วไป ผู้หญิงที่เป็นสิวพบโรคนี้ประมาณร้อยละ 40 ผู้หญิงที่มีประจำเดือนไม่ปกติพบโรคนี้ประมาณร้อยละ 50-90 และผู้หญิงที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่ามีประวัติเป็นโรคนี้ค่อนข้างมาก (ทางประเทศตะวันตกมีรายงานว่าพบได้ประมาณร้อยละ 80)

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการตั้งแต่วัยรุ่นและอาการจะเป็นมากขึ้นตามอายุ

* มีชื่อเรียกอื่น ได้แก่ “Hyperandrogenic chronic anovulation”, “Stein-Luventhal syndrome”

สาเหตุ

ไม่ทราบสาเหตุชัดเจน พบว่าผู้ป่วยจะมีการหลั่งฮอร์โมนแอลเอช (luteining hormone/LH)* มากเกินและมีภาวะดื้ออินซูลิน (insulin resistance)** ร่วมกับภาวะอินซูลินในเลือดสูง ส่งผลให้รังไข่สร้างฮอร์โมนต่าง ๆ อย่างไม่ได้สมดุล เกิดภาวะฮอร์โมนเพศชายสูงและไม่มีการตกไข่ ความผิดปกติเหล่านี้ทำให้เกิดอาการแสดงและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ

*ฮอร์โมนแอลเอชมีหน้าที่กระตุ้นให้รังไข่หลั่งฮอร์โมนเพศชายซึ่งเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนเพศหญิง และกระตุ้นการเจริญของฟอลลิเคิล (follicle) หรือถุงไข่ของรังไข่ ซึ่งถ้ากระตุ้นมากเกินก็ทำให้เกิดถุงน้ำ (cyst) ได้
** หมายถึง ภาวะที่เซลล์ไม่สามารถนำอินซูลินที่มีการสร้างได้เป็นปกติไปใช้ประโยชน์ ตับอ่อนจึงมีการหลั่งอินซูลินให้มากขึ้นเพื่อชดเชยให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย จึงเกิดภาวะอินซูลินในเลือดสูง และในระยะยาวภาวะดื้ออินซูลินทำให้เกิดเบาหวานตามมา


อาการ

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ (ประมาณร้อยละ 80-90) จะมีอาการหน้ามัน เป็นสิว ขนดก หนวดขึ้นผิดปกติ

ประมาณร้อยละ 60-70 มีประจำเดือนผิดปกติ คือ ประจำเดือนขาด หรือประจำเดือนมาห่าง (เว้นห่างมากกว่า 35 วัน หรือมีประจำเดือนน้อยกว่า 8 ครั้ง/ปี) บางรายมีประจำเดือนมากหรือออกผิดปกติแบบโรคดียูบี


ภาวะแทรกซ้อน

จากการทดสอบความทนต่อกลูโคส (75 g OGTT) ในกลุ่มผู้ป่วยโรคนี้ พบว่าเป็นเบาหวาน และเบาหวานแฝง (prediabetes) ประมาณร้อยละ 10-15 และ 30-40 ตามลำดับ

ผู้ป่วยอาจมีบุตรยาก แท้งบุตร หรือคลอดบุตรก่อนกำหนด

ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ กลุ่มอาการเมตาบอลิก (ดู "โรคไขมันในเลือดผิดปกติ") โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น (โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง) เยื่อบุมดลูกหนาตัว (endometrial hyperplasia เนื่องจากมีเอสโทรเจนสูงโดยไม่มีโพรเจสเทอโรน ทำให้เยื่อบุมดลูกถูกกระตุ้นให้หนาตัว) มะเร็งเยื่อบุมดลูก (ซึ่งมักจะพบในผู้หญิงอายุน้อยกว่า 40 ปี) เป็นต้น


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

หน้ามัน เป็นสิว ขนดก มีหนวดขึ้น

รูปร่างท้วม หรืออ้วน (พบได้ประมาณร้อยละ 60)

ผิวหนังมีปื้นหนาสีน้ำตาลหรือสีดำคล้ายกำมะหยี่ (acanthosis nigricans) พบได้ประมาณร้อยละ 40 พบบ่อยที่บริเวณหลังคอ รักแร้ ขาหนีบ ข้อนิ้วมือ ต้นขาด้านใน ใต้นม รอบช่องคลอด เป็นต้น ซึ่งมักเป็นพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง (แบบสมมาตร) บางครั้งอาจมีติ่งหนัง (skin tag) อยู่ในรอบ ๆ บริเวณที่เป็นปื้นหนา

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจเลือดดูระดับฮอร์โมนเพศชายและหญิงและฮอร์โมนอื่น ๆ เพื่อแยกแยะจากสาเหตุอื่น รวมทั้งตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (โดยการทดสอบความทนต่อกลูโคสหรือ 75 g OGTT) และไขมันในเลือด ตรวจอัลตราซาวนด์ ตรวจชิ้นเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก

แพทย์จะวินิจฉัยโรคนี้จากการตรวจพบอย่างน้อย 2 ข้อ ของลักษณะ 3 ข้อต่อไปนี้

    ประจำเดือนผิดปกติ เช่น ประจำเดือนไม่มา มาห่าง หรือมีเลือดออกกะปริดกะปรอย (ดียูบี)
    มีอาการของฮอร์โมนเพศชายสูง (หน้ามัน เป็นสิว ขนดก หนวดขึ้น) และ/หรือตรวจพบฮอร์โมนเพศชายชนิดใดชนิดหนึ่งสูง
    ตรวจอัลตราซาวนด์พบรังไข่เป็นถุงน้ำหลายถุง


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ในรายที่มีประจำเดือนผิดปกติ ให้ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน (เช่น norethisterone หรือ medroxy progesterone) หรือยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดผสม

2. ในรายที่เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว ให้ norethisterone หรือ medroxyprogesterone เป็นเวลา 6 เดือน

3. ในรายที่มีภาวะมีบุตรยาก และต้องการมีบุตร ให้ยากระตุ้นรังไข่ ได้แก่ โคลมิฟีนซิเทรต (clomiphenecitrate) ถ้าไม่ได้ผลให้เมตฟอร์มิน (metformin) ให้เดี่ยว ๆ หรือให้ร่วมกับโคลมิฟีนซิเทรต

บางรายแพทย์อาจให้ยาฉีด follicle-stimulating hormone (FHS) หรือทำการจี้รังไข่ด้วยไฟฟ้าโดยวิธีส่องกล้องเข้าช่องท้อง (laparoscopic ovarian drilling) ทำให้เกิดความร้อนทำลายเนื้อเยื่อรังไข่บางส่วนเพื่อลดปริมาณฮอร์โมนเพศชาย ช่วยให้มีการตกไข่ วิธีนี้ถ้าใช้ร่วมกับการให้ยาโคลมิฟีนซิเทรต จะช่วยให้ได้ผลมากขึ้น

4. ให้การรักษาภาวะอื่น ๆ ที่พบร่วม เช่น เบาหวาน น้ำหนักเกิน กลุ่มอาการเมตาบอลิก


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการหน้ามัน เป็นสิว ขนดก หนวดขึ้นผิดปกติ มีประจำเดือนผิดปกติ คือ ประจำเดือนขาด หรือประจำเดือนมาห่าง (เว้นห่างมากกว่า 35 วัน หรือมีประจำเดือนน้อยกว่า 8 ครั้ง/ปี) ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นกลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่ชนิดหลายถุง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ลดน้ำหนักถ้าอ้วนหรือมีภาวะน้ำหนักเกิน
    หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
    ลดอาหารไขมัน แป้ง และน้ำตาล

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา
    มีอาการหยุดหายใจขณะหลับ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปัสสาวะบ่อย มีเลือดประจำเดือนออกกะปริดกะปรอย เจ็บหน้าอก หรือมีอาการแขนขาชาหรืออ่อนแรง
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

ควรหาทางป้องกันไม่ให้โรคกลายเป็นรุนแรงด้วยการดูแลรักษากับแพทย์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง


ข้อแนะนำ

1. ผู้หญิงวัยรุ่นหรือวัยสูงอายุที่เป็นสิวซึ่งรักษายาก หรือมีอาการหน้ามัน ขนดก หนวดขึ้น ประจำเดือนไม่มา หรือมาห่าง หรือมีบุตรยาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหากลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่ชนิดหลายถุง

2. โรคนี้ส่วนใหญ่สามารถรักษาให้ร่างกายกลับคืนสู่ภาวะปกติได้ ช่วยให้มีบุตรได้ และป้องกันภาวะแทรกซ้อน (เช่น เบาหวาน มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก) ได้


11
อสังหา / motor expo: ยามาฮ่า Yamaha MT-09 (Standard) ปี 2024
« เมื่อ: 19 สิงหาคม 2024, 18:51:00 pm »
motor expo: ยามาฮ่า Yamaha MT-09 (Standard) ปี 2024
447,000 บาท 

ยามาฮ่า Yamaha MT-09 (Standard) ปี 2024
New Yamaha MT-09 เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยามาฮ่าเปิดตัวรถจักรยานยนต์ที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง นับเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ที่ปฏิวัติวงการ ไม่เพียงแต่ในประวัติศาสตร์ของยามาฮ่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโลกของมอเตอร์ไซค์ด้วย ตอนนี้ MT-09 ได้ก้าวไปสู่อีกระดับของความดำมืด ด้วยการผสมผสานระหว่างความชาญฉลาดและสไตล์ เจเนอเรชันใหม่นี้จึงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้นและความตื่นเต้นเร้าใจ ด้วยสไตล์ที่ดุดันและเฉียบขาด รวมถึงคุณสมบัติระดับพรีเมียมที่มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์             Yamaha
   รุ่น                  ยามาฮ่า Yamaha MT-09 (Standard) ปี 2024
   ประเภทรถ         Naked Bigbike
   ปีที่เปิดตัว          2024
   ราคา                447,000 บาท

สเปค
   รูปแบบเกียร์       เกียร์ธรรมดา
   ระบบเกียร์         6 เกียร์
   รายละเอียดเครื่องยนต์    3 สูบ DOHC 12 วาล์ว
   ระบบระบายความร้อน     น้ำ
   ระบบสตาร์ท               สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)   890 CC
   แบบเครื่องยนต์            4 จังหวะ
   ระบบจุดระเบิด             T.C.I
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง   เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), แก๊สโซฮอล์ 91, เบนซิน 95
   ระบบจ่ายน้ำมัน            หัวฉีด
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)   14 ลิตร
   ระบบกันสะเทือน          ล้อหน้า ทเลสโคปิก แบบหัวกลับ 41 มม., ล้อหลัง อลูมิเนียม สวิงอาร์มพร้อมโช้คอัพ
   ระบบเบรค                 ล้อหน้า ดิสก์เบรก (แบบลูกสูบคู่ 298 มม. + ABS), ล้อหลัง ดิสก์เบรก (แบบลูกสูบเดี่ยว 245 มม. + ABS)
   แบบวงล้อ                 แมกซ์
   ขนาดยาง                        ล้อหน้า 120/70 ZR17 M/C 58W เเบบไม่มียางใน, ล้อหลัง 180/55 ZR17 M/C 73W เเบบไม่มียางใน
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.)   2,090 x 820 x 1,145 มม.
   น้ำหนักตัวรถ                    193.00 กก.

12
แท็บเล็ต 2024: เสียวหมี่ Xiaomi Pad6S Pro 12.4 (8GB+256GB)
18,990 บาท 

เสียวหมี่ Xiaomi Pad6S Pro 12.4 (8GB+256GB)
หน้าจอสุดคมชัด 3K 144Hz ขนาด 12.4 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 3:2 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการอ่านเนื้อหา
สนับสนุนโดย Xiaomi HyperOS ให้คุณสร้างผลงานและใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างน่าทึ่ง
แพลตฟอร์มมือถือ Snapdragon® 8 Gen 2 หน่วยประมวลผล 4nm สุดแรงระดับเรือธง
ลำโพง 6 ตัวให้เสียงสเตอริโออันดื่มด่ำ รองรับ Dolby Vision® และ Dolby Atmos®
รองรับ 120W ไฮเปอร์ชาร์จ แบตเตอรี่อึด 10000mAh (typ)

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น           เสียวหมี่ Xiaomi Pad6S Pro 12.4 (8GB+256GB)
   ราคากลาง        18,990 บาท
   จำนวนซิม         -
   สี                   Gray
   ความถี่-เครือข่าย
   ขนาด-น้ำหนัก                 ยาว 191.58 x กว้าง 278.7 x หนา 6.26 มม., น้ำหนัก 590 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน-ROM   256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด    -
   แบตเตอรี่                        ความจุแบต 10,000 mAh

ชนิดจอ
   ชนิดจอ                    LCD
   ขนาด-ความละเอียด     12.4 นิ้ว, 2,032 x 3,048 px

   รายละเอียดอื่น           
ขนาด: หน้าจอ 3K 12.4 นิ้ว, อัตราส่วนภาพ 3:2
ความละเอียด: 3048*2032 294ppi
วัสดุ: LCD
อัตรารีเฟรช: 144Hz AdaptiveSync (30/48/50/60/90/120/144Hz)
ความสว่าง: 700 nits (ปกติ); 900 nits (HBM)
ความไวตอบสนองการสัมผัส: สูงสุด 360Hz
สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง: 88.5%
อัตราคอนทราสต์: 1400:1
ช่วงสี: DCI-P3
ความลึกของสี: 6.87 หมื่นล้านสี; สีดั้งเดิมโปร
การหรี่ไฟ: การปรับความสว่าง 4096 ระดับ, การหรี่ไฟ DC
Dolby Vision®, HDR10, การชดเชยแบบไดนามิก
โหมดอ่านหนังสือปรับอัตโนมัติ
ได้รับการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland (ฮาร์ดแวร์โซลูชัน)
ใบรับรองความไร้ซึ่งแสงกะพริบ TÜV Rheinland
ได้รับใบรับรองความเป็นมิตรกับนาฬิกาชีวภาพจาก TÜV Rheinland
สีสันที่ปรับอัตโนมัติ

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (32 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                             -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)          แพลตฟอร์มมือถือ Snapdragon? 8 Gen 2
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)  Adreno 740
   หน่วยความจำ (RAM)             8 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก             USB (3.2 Gen 1), Bluetooth (5.3), NFC (), Wi-Fi (7, 802.11 a / b / g / n / ac / ax)
   ระบบรับส่งข้อความ                 -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต            -
   ระบบ GPS                         ไม่มี

13
เด็กที่เข้ารับการจัดฟันเด็ก สามารถใช้น้ำยาบ้วนปากได้หรือไม่

การทำความสะอาดช่องปากและฟัน สำหรับเด็กนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการที่เด็กดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ตั้งแต่ยังมีน้ำน้ำนมนั้น เป็นเรื่องที่ดี เพราะฟันน้ำนม ส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ นั่นหมายความว่า ถ้าเด็กที่สุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง ก็จะทำให้ฟันแท้ขึ้นในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ มีรูปร่างฟันที่สวยงาม พ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่าน ให้ความสำคัญกับสุขภาพฟันของลูก เพราะคิดว่า การที่ลูกมีฟันที่สวยงาม มีสุขภาพฟันที่ดี ก็จะทำให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ และเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี


ดังนั้น การที่เราได้พาลูกเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกปี เป็นเรื่องที่สมควรทำ เพื่อปลูกฝังให้ลูกได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน และการที่พาเด็กไปพบทันตแพทย์เพื่อทำความสะอาดฟัน ก็เป็นการลดปัญหาที่อาจจะทำให้เกิดฟันผุได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การทีลูกของท่านจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีได้นั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรสอนหรือแนะนำวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟันที่ถูกวิธีให้กับเด็ก


นอกจากการแปรงฟันที่ถูกวิธีแล้ว การทำความสะอาดด้วยวิธีการอื่นๆ เช่น การใช้ไหมขัดฟัน การใช้น้ำยาบ้วนปาก ก็เป็นการทำความสะอาดฟันที่มีประสิทธิภาพมากเช่นเดียวกัน เพราะบางครั้งเด็กอาจจะทำความสะอาดฟันได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งไหมขัดฟันหรือน้ำยาบ้วนปาก ก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้การทำความสะอาดฟันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ในแง่ของเด็กที่เข้ารับการจัดฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่านอาจจะสงสัยว่า ถ้าเด็กเข้ารับการจัดฟันในเด็กจะสามารถใช้น้ำยาบ้วนปากได้หรือไม่ และเด็กควรจะใช้น้ำยาบ้วนปากแบบไหน ซึ่งในปัจจุบัน ตามท้องตลาดมีน้ำยาบ้วนปากจำหน่ายด้วยกันหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งก็มีความแตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกน้ำยาบ้วนปาก สำหรับเด็กที่เข้ารับการจัดฟันก็ควรที่จะเลือกให้เหมาะสมด้วย


วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการใช้น้ำยาบ้วนปาก สำหรับเด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ และควรที่จะเลือกน้ำยาบ้วนปากแบบใด ให้เหมาะสมกับช่วงอายุและวัยของเด็ก ก่อนอื่นเราจะมาอธิบายการใช้น้ำยาบ้วนปากในเด็กก่อน ซึ่งโดยปกติแล้วน้ำยาบ้วนปาก ไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เพราะเด็กอาจจะกลืนเข้าไปและอาจจะทำให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ  เพราะน้ำยาบ้วนปากมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์สูงแต่ ส่วนใหญ่แล้วน้ำยาบ้วนปากสำหรับเด็กมักจะใช้ชนิดที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์  โดยอาจให้เด็กใช้ในกรณีที่ลูกฝันผุมากๆ หรือเด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ที่อาจจะทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ทั่วถึง

สรุปก็คือ เด็กที่เข้ารับการจัดฟันเด็ก สามารถใช้น้ำยาบ้วนปาก เพื่อทำความสะอาดฟันในส่วนที่เข้าถึงยาก แต่พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะระมัดระวัง ควรอ่านข้อควรระวังและคำแนะนำของน้ำยาบ้วนปากให้ชัดเจน ที่สำคัญควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนที่จะให้เด็กใช้น้ำยาบ้วนปาก เพื่อความปลอดภัยทั้งในแง่ของสุขภาพช่องปากและฟัน และสุขภาพร่างกายของเด็กด้วย สำหรับการใช้น้ำยาบ้วนปากสำหรับเด็กนั้น ควรใช้ในเด็กที่มีอายุตั้ง 6 ปีขึ้นไป ที่สามารถบ้วนน้ำทิ้งได้ ควรใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุในอนาคต เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้ ควรใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ในเด็กที่เข้ารับการจัดฟัน การใช้น้ำยาบ้วนปากก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรเลือกน้ำยาบ้วนปากที่เหมาะสมกับเด็กด้วย

ทั้งนี้ หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด อยากให้ลูกเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถพาเด็กมาพบทันตแพทย์จัดฟันที่คลินิกได้ เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านการจัดฟันในเด็ก จึงทำให้มั่นใจได้ว่า ลูกของท่านจะได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและมีมาตรฐาน รวมไปถึงมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

14
อสังหา / หมอออนไลน์: เบาหวาน (Diabetes mellitus/DM)
« เมื่อ: 16 สิงหาคม 2024, 20:42:56 pm »
หมอออนไลน์: เบาหวาน (Diabetes mellitus/DM)

เบาหวาน เป็นโรคที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการนำน้ำตาลไปใช้ประโยชน์อันเกี่ยวเนื่องกับความบกพร่องของฮอร์โมนอินซูลิน (insulin) ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งก่อให้เกิดอาการและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา

ในบ้านเราพบโรคนี้ประมาณร้อยละ 9 ของประชากรไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป และพบเป็นมากขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ผู้ที่มีอายุ 15-29 ปีพบได้ประมาณร้อยละ 2 ในขณะที่อายุ 60-69  ปีขึ้นไปพบได้ถึงร้อยละประมาณ 20

ผู้ที่เป็นเบาหวานมักมีประวัติว่ามีพ่อแม่ หรือญาติพี่น้องเป็นโรคนี้ และมักมีภาวะน้ำหนักเกินร่วมด้วย

สาเหตุ

เกิดจากความพบพร่องของฮอร์โมนอินซูลิน

อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ผลิตโดยตับอ่อน (ส่วนที่เรียกว่า บีตาเซลล์) ทำหน้าที่ช่วยนำน้ำตาลหรือกลูโคสในเลือด (ซึ่งได้จากอาหารที่กิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกแป้ง คาร์โบไฮเดรต ของหวาน) เข้าสู่เซลล์ทั่วร่างกาย เพื่อเผาผลาญให้เป็นพลังงานสำหรับการทำหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ

ผู้ที่เป็นเบาหวานจะพบว่าตับอ่อนผลิตอินซูลินได้น้อยหรือไม่ได้เลย หรือผลิตได้ปกติ แต่ประสิทธิภาพของอินซูลินลดลง (เรียกว่า ภาวะดื้อต่ออินซูลิน หรือ insulin resistance เช่นที่พบในคนอ้วน) เมื่อขาดอินซูลินหรืออินซูลินทำหน้าที่ไม่ได้ น้ำตาลในเลือดจึงเข้าสู่เซลล์ต่าง ๆ ได้น้อยกว่าปกติ จึงเกิดการคั่งของน้ำตาลในเลือด และน้ำตาลก็ถูกขับออกมาทางปัสสาวะ จึงเรียกว่า เบาหวาน

ผู้ป่วยที่เป็นมาก คือมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมาก มักจะมีอาการปัสสาวะบ่อยและมาก เนื่องจากน้ำตาลที่ออกมาทางไตจะดึงเอาน้ำออกมาด้วย จึงทำให้มีปัสสาวะมากกว่าปกติ เมื่อถ่ายปัสสาวะมาก ก็ทำให้รู้สึกกระหายน้ำต้องคอยดื่มน้ำบ่อย ๆ และเนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถนำน้ำตาลมาเผาผลาญเป็นพลังงานจึงหันมาเผาผลาญกล้ามเนื้อและไขมันแทน ทำให้ร่างกายผ่ายผอม ไม่มีไขมัน กล้ามเนื้อฝ่อลีบ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง

นอกจากนี้ การมีน้ำตาลในเลือดสูงนาน ๆ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงผิดปกติ และนำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนมากมาย

เบาหวานสามารถแบ่งออกเป็นหลายชนิด ซึ่งมีสาเหตุ ความรุนแรง และการรักษาต่างกัน ที่สำคัญได้แก่

1. เบาหวานชนิดที่ 1 (type 1 diabetes mellitus) เป็นชนิดที่พบได้น้อย แต่มีความรุนแรงและอันตรายสูง มักพบในเด็กและผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี แต่ก็อาจพบในผู้สูงอายุได้บ้าง ตับอ่อนของผู้ป่วยชนิดนี้จะผลิตอินซูลินไม่ได้เลยหรือได้น้อยมาก เชื่อว่าร่างกายมีการสร้างสารภูมิต้านทานขึ้นต่อต้านทำลายตับอ่อนของตนเองจนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้ ดังที่เรียกว่า โรคภูมิต้านตนเอง (autoimmune) ทั้งนี้เป็นผลมาจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ร่วมกับการติดเชื้อ หรือการได้รับสารพิษจากภายนอก

ผู้ป่วยจะมีรูปร่างผอม มีอาการของโรคชัดเจน และจำเป็นต้องพึ่งพาการฉีดอินซูลินเข้าทดแทนทุกวันไปตลอดชีวิต จึงจะสามารถเผาผลาญน้ำตาลได้เป็นปกติ มิเช่นนั้นร่างกายจะหันไปเผาผลาญไขมันแทนจนทำให้ผ่ายผอมอย่างรวดเร็ว และถ้าเป็นรุนแรงจะมีการคั่งของสารคีโตน (ketones) ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการเผาผลาญไขมัน สารนี้จะเป็นพิษต่อระบบประสาททำให้ผู้ป่วยหมดสติถึงตายได้รวดเร็ว เรียกว่า ภาวะคั่งสารคีโตน (ketosis)

ผู้ป่วยกลุ่มนี้แต่เดิมเรียกว่า เบาหวานชนิดพึ่งอินซูลิน (insulin-dependent diabetes mellitus/IDDM)

2. เบาหวานชนิดที่ 2 (type 2 diabetes mellitus) เป็นเบาหวานชนิดที่พบเห็นกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมักมีความรุนแรงน้อย มักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป และมีแนวโน้มพบในเด็ก/วัยรุ่นมากขึ้น ตับอ่อนของผู้ป่วยชนิดนี้ยังสามารถผลิตอินซูลินได้ แต่ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย หรือผลิตได้พอ แต่เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน จึงทำให้มีน้ำตาลคั่งในเลือดกลายเป็นเบาหวานได้ ผู้ป่วยชนิดนี้มักมีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน สาเหตุอาจเกิดจากกรรมพันธุ์หรืออ้วนเกินไป ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการชัดเจน และมักไม่เกิดภาวะคีโตซีสเช่นที่เกิดกับชนิดที่ 1 การควบคุมอาหารหรือการใช้ยาเบาหวานชนิดกิน มักได้ผลในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติได้ หรือบางครั้งถ้าระดับน้ำตาลสูงมาก ๆ ก็อาจต้องใช้อินซูลินฉีดเป็นครั้งคราว ยกเว้นในรายที่ดื้อต่อยากินอาจต้องใช้อินซูลินตลอดไป

ผู้ป่วยกลุ่มนี้แต่เดิมเรียกว่า เบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน (non-insulin-dependent diabetes mellitus /NIDDM) และเนื่องจากเป็นกลุ่มที่พบได้บ่อย เมื่อพูดถึงโรคเบาหวาน จึงมักหมายถึงเบาหวานชนิดนี้

3. เบาหวานที่มีสาเหตุจำเพาะอื่น ๆ อาทิ

    เกิดจากยา เช่น สเตียรอยด์ ยาขับปัสสาวะไทอาไซด์ กรดนิโคตินิก ฮอร์โมนไทรอยด์
    พบร่วมกับโรคหรือภาวะผิดปกติทางกรรมพันธุ์ เช่น

          - พบร่วมกับโรคติดเชื้อ เช่น คางทูม หัดเยอรมันโดยกำเนิด โรคติดเชื้อไวรัสไซโตเมกะโล (cytomegalovirus)
          - พบร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่น มะเร็งตับอ่อน ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง ซึ่งมักพบในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด โรคคุชชิง กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่ชนิดหลายถุง อะโครเมกาลี (acromegaly) ฟีโอโครโมไซโตมา (pheochromocytoma ซึ่งเป็นเนื้องอกของต่อมหมวกไตชนิดหนึ่ง)

ถ้าเกิดจากสาเหตุที่แก้ไขได้ เช่น ผ่าตัดเนื้องอกออกไป หรือหยุดยาที่เป็นต้นเหตุ โรคเบาหวานก็สามารถหายได้

4. เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (gestational diabetes mellitus/GDM) ขณะตั้งครรภ์รกสร้างฮอร์โมนหลายชนิดซึ่งเข้าไปในร่างกายหญิงตั้งครรภ์ ทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน เป็นเหตุให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจนกลายเป็นเบาหวานได้ หลังคลอดระดับน้ำตาลในเลือดมารดามักจะกลับสู่ปกติ

หญิงกลุ่มนี้อาจคลอดทารกตัวโต (น้ำหนักแรกเกิดมากกว่า 4 กก.) มักเป็นเบาหวานซ้ำอีกเมื่อตั้งครรภ์ใหม่ และมีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานเรื้อรังตามมาในระยะยาว

อาการ

ในรายที่เป็นไม่มาก ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เกิน 200 มก./ดล. ซึ่งพบในกลุ่มเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นส่วนใหญ่ ผู้ป่วยจะรู้สึกสบายดีและไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ มักตรวจพบโดยบังเอิญจากการตรวจปัสสาวะ หรือตรวจเลือดขณะไปพบแพทย์ด้วยเรื่องอื่น หรือจากการตรวจเช็กสุขภาพ

ในรายที่เป็นมาก ระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่า 200 มก./ดล. ซึ่งพบในกลุ่มเบาหวานชนิดที่ 1 และบางส่วนของเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นถึงขั้นรุนแรง ผู้ป่วยมีอาการปัสสาวะบ่อยและออกครั้งละมาก ๆ กระหายน้ำบ่อย หิวบ่อยหรือกินข้าวจุ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง บางรายอาจสังเกตว่าปัสสาวะมีมดขึ้น

ในรายที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 อาการต่าง ๆ มักเกิดขึ้นรวดเร็วร่วมกับน้ำหนักตัวลดลงฮวบฮาบ (กินเวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน) ผู้ป่วยเด็กบางรายอาจมีอาการปัสสาวะรดที่นอนตอนกลางคืน ผู้ป่วยบางรายอาจมาโรงพยาบาลด้วยอาการหมดสติด้วยภาวะคีโตแอซิโดชิส (ketoacidosis) ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีอายุน้อยและรูปร่างผอม

ในรายที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการแสดงชัดเจน ส่วนน้อยจะมีอาการผิดปกติดังกล่าวข้างต้น น้ำหนักตัวอาจลดลงบ้างเล็กน้อย บางรายอาจมีน้ำหนักขึ้น ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนอยู่แต่เดิม ในรายที่เป็นเรื้อรังมานาน (ทั้งที่มีอาการหรือไม่มีอาการปัสสาวะบ่อยมาก่อน) อาจมีอาการคันตามตัว เป็นฝีหรือโรคติดเชื้อราที่ผิวหนังบ่อย หรือเป็นแผลเรื้อรัง หรืออาจมาพบแพทย์ด้วยภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ชาหรือปวดแสบปวดร้อนตามปลายมือปลายเท้า ตามัวลงทุกที หรือต้องเปลี่ยนแว่นสายตาบ่อย เจ็บจุกหน้าอกจากโรคหัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น

ภาวะแทรกซ้อน

มักเกิดกับผู้ป่วยเบาหวานที่ปล่อยปละละเลย ขาดการรักษา หรือดูแลรักษาไม่ถูกต้อง

ภาวะแทรกซ้อนมีทั้งประเภทเฉียบพลัน (เช่น หมดสติ ติดเชื้อรุนแรง) และประเภทเรื้อรัง

ภาวะแทรกซ้อนประเภทเรื้อรัง มักเกิดในกลุ่มผู้ป่วยที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้อยู่เป็นเวลานาน (บางคนอาจใช้เวลา 5-10 ปีขึ้นไป) ทำให้หลอดเลือดแดงทั้งขนาดเล็กและใหญ่แข็งและตีบตัน ส่งผลให้อวัยวะหลายส่วน (เช่น ตา ไต ระบบประสาท เท้า สมอง หัวใจ) ขาดเลือดไปเลี้ยง เป็นเหตุให้อวัยวะเหล่านี้เสื่อมสมรรถภาพ พิการ หรือเสียหน้าที่

ผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากภูมิคุ้มกันโรคต่ำ (เม็ดเลือดขาวทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรคได้น้อยลง)

นอกจากนี้ ผู้ป่วยเบาหวานยังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะอื่น ๆ เป็นเหตุให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้อีกหลากหลาย

ในที่นี้จะขอกล่าวถึงภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญหรือพบบ่อย ได้แก่

1. ภาวะหมดสติจากเบาหวาน เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเฉียบพลันและรุนแรง หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีอาจเสียชีวิตได้

สาเหตุที่พบได้บ่อย คือ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ จะพบในผู้ป่วยเบาหวานที่กินยาหรือฉีดยาเบาหวานสม่ำเสมอ หรือควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ค่อนข้างดีอยู่แต่เดิม ภาวะแทรกซ้อนชนิดนี้มักเกิดจากผู้ป่วยใช้ยาเบาหวานเกินขนาด อดอาหาร กินอาหารน้อยเกินไป หรือกินอาหารผิดเวลานานเกินไป ดื่มแอลกอฮอล์มาก หรือมีการออกแรงกายหนักและนานเกินไป

อาการ ในระยะแรกผู้ป่วยจะรู้สึกหิว ใจสั่น มือสั่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ หงุดหงิด กระสับกระส่าย เหงื่อออก ตัวเย็น ตาพร่ามัว หรือเห็นภาพซ้อน ถ้าผู้ป่วยรีบกินน้ำตาลหรือน้ำหวาน อาการต่าง ๆ จะทุเลาได้ภายในเวลาสั้น ๆ แต่หากไม่ทำการแก้ไขดังกล่าว ก็จะมีอาการขากรรไกรแข็ง ชักเกร็ง ไม่ค่อยรู้สึกตัวหรือหมดสติ ตรวจเลือดจะพบว่าน้ำตาลในเลือดต่ำ ตรวจปัสสาวะจะไม่พบน้ำตาลในปัสสาวะ (ดูรายละเอียดใน “ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ”)

นอกจากนี้ ภาวะหมดสติจากเบาหวาน ยังอาจเกิดจากสาเหตุร้ายแรงอื่น ๆ ได้แก่

    ภาวะคีโตแอซิโดซิส (ketoacidosis) พบเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ที่ขาดการฉีดอินซูลินนาน ๆ หรือพบในภาวะติดเชื้อหรือได้รับบาดเจ็บ ซึ่งร่างกายต้องการอินซูลินมากขึ้นร่างกายจะมีการเผาผลาญไขมันแทนน้ำตาลทำให้เกิดการคั่งของสารคีโตนในเลือด จนเกิดภาวะเลือดเป็นกรด (เรียกว่า diabetic ketoacidosis/DKA) ผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน กระหายน้ำอย่างมาก หายใจหอบลึก และลมหายใจมีกลิ่นหอม (กลิ่นของสารคีโตน) มีไข้ กระวนกระวาย มีภาวะขาดน้ำรุนแรง (ตาโบ๋ หนังเหี่ยว ความดันต่ำ ชีพจรเบาเร็ว) อาจมีอาการปวดท้อง ท้องเดิน ผู้ป่วยจะซึมลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งหมดสติ จะตรวจพบน้ำตาลในเลือดสูง พบน้ำตาลในปัสสาวะและพบสารคีโตนในเลือดและในปัสสาวะ
    ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงรุนแรง (non-ketotic hyperglycemic hyperosmolar coma/NKHHC) มักพบในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เป็นโรคโดยไม่รู้ตัว หรือที่ขาดการรักษา หรือมีภาวะติดเชื้อรุนแรง (เช่น ปอดอักเสบ กรวยไตอักเสบ โลหิตเป็นพิษ) หรือมีการใช้ยาบางชนิด (เช่น สเตียรอยด์ ยาขับปัสสาวะ) ร่วมด้วย ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมาก ๆ (สูงเกิน 600 มก./ดล. ขึ้นไป) ผู้ป่วยจะเกิดภาวะขาดน้ำรุนแรง ซึม เพ้อ ชัก หมดสติ โดยก่อนหน้าจะหมดสติเป็นวันหรือสัปดาห์ ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำบ่อย

2. การติดเชื้อ ผู้ป่วยเบาหวานจะเป็นโรคติดเชื้อง่ายเนื่องจากภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเป็นการติดเชื้อซ้ำซาก เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กลาก โรคเชื้อราเคนดิดา ช่องคลอดอักเสบ เป็นฝีหรือพุพอง เป็นต้น อาจจะเป็นการติดเชื้อรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน หูชั้นนอกอักเสบรุนแรง เท้าเป็นแผลติดเชื้อซึ่งอาจลุกลามจนเท้าเน่า เป็นต้น หรืออาจจะเป็นโรคติดเชื้อเรื้อรัง เช่น วัณโรคปอด

3. ภาวะแทรกซ้อนของตา ที่สำคัญคือ จอประสาทตาเสื่อม (retinopathy) เกิดจากการตีบตันของหลอดเลือดแดงขนาดเล็กที่มาเลี้ยงจอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาและหลอดเลือดในบริเวณนี้เกิดความผิดปกติแบบค่อยเป็นค่อยไป ในระยะแรกผู้ป่วยจะไม่รู้สึกผิดปกติ จนกระทั่งเป็นมากแล้วก็จะเกิดอาการตามัว ตาบอดได้ ดังนั้นจึงควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจเช็กตาปีละครั้ง (ผู้ป่วยเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ควรตรวจตาตั้งแต่อายุครรภ์ 3 เดือนแรก และตรวจเป็นระยะจนกระทั่งหลังคลอด 1 ปี เนื่องจากการตั้งครรภ์อาจทำให้จอประสาทตาเสื่อมมากขึ้น) ถ้าพบเป็นตั้งแต่ระยะแรกเริ่มจะได้ให้การรักษา (ประกอบด้วยการยิงเลเซอร์ไปที่หลอดเลือดที่ผิดปกติ) ป้องกันตาบอด

นอกจากนี้ ยังอาจพบว่าผู้ป่วยเบาหวานเป็นต้อกระจกก่อนวัย หรือต้อหินเรื้อรัง เลือดออกในน้ำวุ้นลูกตา (vitreous hemorrhage) จอตาลอก หลอดเลือดแดงหลักของจอตาอุดตัน ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้ตาบอดได้

4. ภาวะแทรกซ้อนของไต ที่สำคัญ คือ ไตเสื่อม หรือไตวายเรื้อรัง (nephropathy หรือ chronic renal failure) เกิดจากการตีบตันของหลอดเลือดแดงขนาดเล็กที่มาเลี้ยงไต ทำให้ไตเสื่อมลงแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้า ๆ ในระยะแรกจะพบว่ามีสารไข่ขาว (แอลบูมิน) หลุดออกมาในปัสสาวะจำนวนน้อย (30-299 มก./วัน ซึ่งเรียกว่า microalbuminuria) ระยะนี้ยังมีทางบำบัดเพื่อป้องกันภาวะไตเสื่อมได้ ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสารไข่ขาวในปัสสาวะอย่างน้อยปีละครั้ง หากปล่อยปละละเลยจนไตเสื่อมถึงที่สุด ก็จะกลายเป็นไตวายเรื้อรัง ซึ่งในที่สุดอาจต้องทำการฟอกล้างของเสียหรือล้างไต (dialysis) หรือผ่าตัดปลูกถ่ายไต

5. ภาวะแทรกซ้อนของระบบประสาท ได้แก่ ระบบประสาทเสื่อม (neuropathy) เนื่องจากหลอดเลือดแดงขนาดเล็กที่มาเลี้ยงระบบประสาทเกิดการแข็งและตีบ ถ้าเกิดกับประสาทส่วนปลายที่เลี้ยงแขนขา ในระยะแรกอาจมีอาการปลายมือปลายเท้าแสบร้อน หรือเจ็บเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง มักเป็นมากตอนกลางคืน จนบางรายนอนไม่หลับ อาการจะทุเลาหรือหายได้เมื่อคุมเบาหวานได้ดี

ถ้าปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูงต่อไปนาน ๆ ก็จะเกิดอาการชาปลายมือปลายเท้า ซึ่งจะค่อย ๆ ลุกลามสูงขึ้นมาเรื่อย ๆ (คล้ายใส่ถุงมือถุงเท้า) อาการชาดังกล่าวเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไม่หายแม้ว่าต่อมาจะคุมเบาหวานได้ดีขึ้นก็ตาม จนในที่สุดจะไม่มีความรู้สึก จึงเกิดบาดแผลที่เท้าง่ายเมื่อเหยียบถูกของมีคมหรือของร้อน ๆ หรือถูกของแหลมทิ่มตำ เมื่อเกิดบาดแผลก็มีโอกาสติดเชื้ออักเสบเนื่องจากภูมิคุ้มกันต่ำ และเนื่องจากมีภาวะขาดเลือดจากภาวะหลอดเลือดแดงแข็งและตีบ ทำให้แผลหายยาก บางครั้งอาจลุกลามรุนแรง หรือเป็นเนื้อเน่าตาย (gangrene) จำเป็นต้องตัดนิ้วเท้าหรือข้อเท้า เกิดความพิการได้ ผู้ป่วยเบาหวานควรหมั่นดูแลเท้าอย่าให้เกิดบาดแผล และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะจะเสริมให้หลอดเลือดแข็งและตีบมากขึ้น

บางรายอาจมีประสาทเลี้ยงกล้ามเนื้อตาเสื่อม ทำให้กล้ามเนื้อตาเป็นอัมพาต มีอาการตาเหล่ หนังตาตก หลับตาไม่สนิท รูม่านตาขยาย มองเห็นภาพซ้อน อาการเหล่านี้มักหายได้เองภายใน 6-12 สัปดาห์

นอกจากนี้ ยังอาจมีความเสื่อมของระบบประสาทอัตโนมัติ (autonomic neuropathy) ซึ่งควบคุมอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะจากภาวะความดันตกในท่ายืน อาการอาหารไม่ย่อยหรือแสบลิ้นปี่จากโรคกรดไหลย้อน ปวดท้อง ท้องเดิน หรือท้องผูกเรื้อรังจากโรคลำไส้แปรปรวน กระเพาะปัสสาวะหย่อนสมรรถภาพ (ทำให้ถ่ายปัสสาวะออกไม่หมด เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง) ต่อมเหงื่อไม่ทำงาน (ทำให้ผิวแห้ง) องคชาตไม่แข็งตัว (erectile dysfunction ซึ่งนอกจากเกิดจากประสาทที่ไปเลี้ยงองคชาตเสื่อมแล้ว ยังเป็นผลมาจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงองคชาตเกิดการแข็งและตีบอีกด้วย)

6. ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) ทำให้หลอดเลือดตีบตัน ขาดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญ ๆ ได้แก่ หัวใจ สมอง ทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงหรือผิดปกติ อ้วน สูบบุหรี่ เป็นต้น ก็ยิ่งมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงขาและเท้าก็เกิดการตีบตันได้ เรียกว่า "โรคหลอดเลือดแดงขาตีบ" มีภาวะเลือดไปเลี้ยงขาและเท้าไม่พอ ทำให้เกิดอาการปวดขาเวลาเดิน และอาจพบเป็นตะคริวตอนกลางคืนได้บ่อย

7. ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ผู้ป่วยเบาหวานยังอาจเป็นปัจจัยของการเกิดโรคอื่น ๆ อีก เช่น สมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ ภาวะซึมเศร้า หูตึง ภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง นิ่วน้ำดี เส้นประสาทมือถูกพังผืดรัดแน่น ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจพิการ (cardiomyopathy ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวาย) ได้ ภาวะไขมันสะสมในตับ (fatty liver ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับ) รวมทั้งมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับอ่อนมากขึ้น

การวินิจฉัย

สำหรับคนทั่วไป (ที่ไม่ได้ตั้งครรภ์) หากมีอาการของเบาหวาน (เช่น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำบ่อย) หรือไม่มีอาการแต่ตรวจพบน้ำตาลในปัสสาวะหรือน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ หรือเป็นผู้ที่เสี่ยงต่อโรคนี้ (เช่น อ้วน มีญาติสายตรงเป็นเบาหวาน) ควรส่งตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัย ดังนี้

1. กรณีผู้ป่วยไม่มีอาการแสดง ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดแบบเจาะที่แขน (venous blood) หลังอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง (fasting plasma glucose/FPG) ซึ่งสามารถแปลผล ดังนี้

    ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร (FPG) มีค่าต่ำกว่า 100 มก./ดล. ถือว่าปกติ
    ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร (FPG) มีค่าเท่ากับ 100-125 มก./ดล. ถือว่าเป็นระดับน้ำตาลสูงผิดปกติ (impaired fasting glucose/IFG) เรียกว่า กลุ่มเสี่ยงสูงต่อเบาหวาน  (categories of increased risk for diabetes) ควรตรวจยืนยันด้วยการทดสอบความทนต่อน้ำตาล (oral glucose tolerance test/OGTT)*
    ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร (FPG) มีค่าตั้งแต่ 126 มก./ดล. ขึ้นไป หรือระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มกลูโคส 2 ชั่วโมงมีค่าตั้งแต่ 200 มก./ดล. ขึ้นไป ให้สงสัยว่าอาจเป็นเบาหวาน ควรทำการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด (FPG หรือ OGTT แล้วแต่กรณี) ซ้ำอีกครั้งในวันหลัง ถ้ายังมีค่าสูงอยู่ในระดับดังกล่าวอีกก็วินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน

นอกจากนี้ ยังสามารถวินิจฉัยโรคเบาหวานจากการตรวจพบระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม (HbA1C) มีค่าเท่ากับหรือมากกว่า 6.5%** จากการตรวจ 2 ครั้งในต่างวันกัน

2. กรณีผู้ป่วยมีอาการชัดเจน ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดแบบสุ่มตรวจ คือ ตรวจได้ทันทีไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใด ถ้าพบว่ามีค่าตั้งแต่ 200 มก./ดล. ขึ้นไป ก็สามารถวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน

เกณฑ์การวินิจฉัยโรคเบาหวาน (สำหรับหญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์)***

1. กรณีผู้ป่วยไม่มีอาการของโรคเบาหวาน จะวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานตามข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้

ก. ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง (FPG) มีค่าเท่ากับ 126 มก./ดล. หรือมากกว่าจากการตรวจ 2 ครั้งในต่างวันกัน หรือ

ข. ระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม (HbA1C) มีค่าเท่ากับ 6.5% หรือมากกว่าจากการตรวจ 2 ครั้งในต่างวันกัน หรือ

ค. ระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มกลูโคส 2 ชั่วโมง (2-hr plasma glucose) จากการทดสอบความทนต่อกลูโคส (OGTT) โดยการดื่มกลูโคส 75 กรัม มีค่าเท่ากับ 200 มก./ดล. หรือมากกว่าจากการตรวจ 2 ครั้งในต่างวันกัน


2. กรณีผู้ป่วยมีอาการของโรคเบาหวานชัดเจน เช่น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำบ่อย จะวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานเมื่อ

ก. ระดับน้ำตาลในเลือดแบบสุ่มตรวจ (random plasma glucose) มีค่าเท่ากับ 200 มก./ดล. หรือมากกว่า จากการตรวจเพียงครั้งเดียวในช่วงเวลาใดก็ได้

เกณฑ์การตรวจกรองโรคเบาหวานในผู้ที่ไม่มีอาการแสดง

1. ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน (ดัชนีมวลกาย ≥ 23 กก./ม² ถ้าตรวจพบเป็นปกติ ให้ตรวจซ้ำทุก 3 ปี

2. ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน ร่วมกับปัจจัยเสี่ยงข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ควรตรวจกรองเบาหวานเมื่ออายุต่ำกว่า 35 ปี หรือควรกรองให้ถี่ขึ้น

    ขาดการออกกำลังกาย
    มีพ่อแม่พี่น้องเป็นเบาหวาน
    เคยตรวจพบว่ามีภาวะเบาหวานแฝง (ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมงมีค่า 100-125 มก./ดล. หรือระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มกลูโคส 75 กรัมไปแล้ว 2 ชั่วโมง มีค่า 140 -199 มก./ดล.)
    เคยมีประวัติเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) หรือคลอดบุตรน้ำหนักมากกว่า 4 กก.
    มีความดันโลหิตสูง (≥ 140/90 มม.ปรอทขึ้นไป)
    มีไขมันเอชดีแอล (HDL) <35 มก./ดล. และ/หรือไตรกลีเซอไรด์ >250 มก./ดล.
    มีโรคหรือภาวะอื่น ๆ ที่สัมพันธ์กับภาวะดื้อต่ออินซูลิน เช่น กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่ชนิดหลายถุง ผิวหนังเป็นปื้นหนาสีน้ำตาลหรือดำ (acanthosis nigricans****) เป็นต้น
    มีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดแข็งและตีบ (vacular disease)

* วิธีทดสอบ ให้ผู้ป่วยอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ทำการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดก่อน 1 ครั้ง แล้วให้ผู้ป่วยดื่มน้ำตาลกลูโคส 75 กรัม ทำการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มน้ำตาลไปแล้ว 1, 2 และ 3 ชั่วโมง โดยทั่วไปนิยมใช้ค่าน้ำตาลในเลือดหลังดื่มกลูโคสไปแล้ว 2 ชั่วโมง เป็นเกณฑ์ในการวินิจฉัย (ค่าปกติต่ำกว่า 140 มก./ดล. ถ้ามีค่า 140-199 มก./ดล. ถือว่าเป็น “กลุ่มเสี่ยงสูงต่อเบาหวาน” ถ้ามีค่าตั้งแต่ 200 มก./ดล. ขึ้นไปถือว่าเป็นเบาหวาน) วิธีนี้จะใช้เฉพาะในรายที่ตรวจพบว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารสูงผิดปกติ (IFG) และหญิงหลังคลอดที่เคยตรวจพบว่าเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (gestational diabetes mellitus/GDM)
ในการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด ถ้าผู้ป่วยมีประวัติกินยาที่อาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูงอยู่ก่อน เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาเม็ดคุมกำเนิด สเตียรอยด์ กรดนิโคตินิก เฟนิโทอิน เป็นต้น ควรให้ผู้ป่วยงดยาก่อนที่จะทำการตรวจเลือด

** ค่าปกติต่ำกว่า 5% ถ้ามีค่า 5.7-6.4% ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต่อเบาหวาน

***สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ใช้เกณฑ์ข้อที่ 1 ก. และ 2 ก. ในการวินิจฉัยได้เช่นเดียวกัน
ส่วนระดับน้ำตาลในเลือดจากการทดสอบความทนต่อกลูโคส โดยการดื่มกลูโคส 100 กรัม (100 g OGTT) ใช้เกณฑ์ดังนี้
1. ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง ≥ 95 มก./ดล.
2. ระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มกลูโคส 1 ชั่วโมง ≥ 180 มก./ดล.
3. ระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มกลูโคส 2 ชั่วโมง ≥ 155 มก./ดล.
4. ระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มกลูโคส 3 ชั่วโมง ≥ 140 มก./ดล.
การวินิจฉัยภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) ต้องมีค่าน้ำตาลสูงตามเกณฑ์ดังกล่าว ตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป

**** ผิวหนังเป็นปื้นหนาสีน้ำตาลหรือดำคล้ายกำมะหยี่ พบบ่อยที่บริเวณหลังคอ รักแร้ ขาหนีบ ข้อนิ้วมือ ใต้นม ต้นขาด้านใน รอบช่องคลอด เป็นต้น ซึ่งมักเป็นพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง (แบบสมมาตร) บางครั้งอาจมีติ่งหนัง (skin tag) อยู่ในหรือรอบ ๆ บริเวณที่เป็นปื้นหนา



15
วัดบางกุ้ง วัดสวย สมุทรสงคราม Unseen โบสถ์ปรกโพธิ์ เที่ยววัดใกล้กรุงเทพ

พูดถึงอีกหนึ่ง ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ที่หลายๆ คนไปชิลกันได้ในวันหยุดสั้นอย่างวันเสาร์-อาทิตย์ ก็คือ อัมพวา สมุทรสงคราม ค่ะ ต้องบอกว่าที่นี่มีที่เที่ยวเยอะมากๆ นอกจาก ตลาดน้ำอัมพวา และวันนี้ เราก็จะพามาเที่ยวแบบ Unseen กันที่ วัดบางกุ้ง วัดสวย สมุทรสงคราม อีกหนึ่งวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียว


      วัดบางกุ้ง เป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งทางประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ใน อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม และไม่ไกลจากตลาดน้ำอัมพวาอีกด้วย

      ตามประวัติ กล่าวว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ช่วง พ.ศ.2308 กองทัพพม่ายกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าเอกทัศ จึงรับสั่งให้หัวเมืองปากใต้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้ง ที่ตำบลบางกุ้ง เมืองสมุทรสงคราม เรียกว่า ค่ายบางกุ้ง


      กองทัพพม่า ยกทัพเข้ามาตามลำน้ำแม่กลอง และบุกลงมาจนถึงค่ายบางกุ้ง โดยที่กองทัพของกรุงศรีอยุธยาไม่สามารถต้านทานไว้ได้ค่ายบางกุ้งจึงแตก หลังจากพม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตกในปี พ.ศ.2310 ค่ายบางกุ้งก็ตกอยู่ในสภาพค่ายร้าง

      ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้กู้เอกราช และสถาปนากรุงธนบุรีแล้ว โปรดให้ชาวจีนรวบรวมสมัครพรรคพวกมาตั้งเป็นกองทหารรักษาค่ายเก่าที่บางกุ้ง จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า ค่ายจีนบางกุ้ง นั่นเอง


Unseen โบสถ์ปรกโพธิ์

      จุดเด่นความสวยงามของวัดบางกุ้ง นี้ที่แตกต่างจากวัดอื่นก็คือ โบสถ์ปรกโพธิ์ โบสถ์ของวัดถูกต้นไม้ใหญ่ 4 ชนิดปกคลุมอยู่ ได้แก่ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และต้นกร่าง ถือเป็นโบสถ์ในต้นไม้แห่งเดียวในประเทศไทย และคาดว่าน่าจะมีอายุราว 200 กว่าปีเลยทีเดียว

      อีกทั้งโบสถ์ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา ตามแบบวัดไทยทั่วๆ ไป รากไม้เหล่านี้เป็นตัวช่วยยึดให้โบสถ์ยังคงรูปได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจทีเดียว นอกจากนี้ตรงหน้าบันยังมีลวดลายพันธุ์พฤกษา ประดับด้วยเครื่องถ้วยซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ทำให้วัดบางกุ้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของสมุทรสงคราม และยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน ที่เที่ยว Unseen Thailand อีกด้วย


      ภายในโบสถ์ปรกโพธิ์นั้น ประดิษฐาน หลวงพ่อพุทธมณีนิล หรือ หลวงพ่อโบสถ์น้อย หรือ หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยอยุธยาตอนปลาย พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้าน

      นอกจากนี้ ภายในโบสถ์ปรกโพธิ์ ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามและเก่าแก่มากๆ แสดงเรื่องราวพุทธประวัติ เป็นภาพพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม และภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่ในซุ้ม ขนาบข้างด้วยอัครสาวกนั่งพนมมือ


ตำนาน ศาลนางไม้เจ้าจอม วัดบางกุ้ง

     ศาลนางไม้เจ้าจอม วัดบางกุ้ง ตั้งอยู่ด้านหลังของโบสถ์ปรกโพธิ์ ซึ่งมีที่มาคือ เมื่อปี พ.ศ. 2531 พระวินัยธร องอาจอาริโย ได้เดินธุดงค์มาที่บริเวณวัดบางกุ้ง ยามดึกขณะเจริญกรรมฐานมักจะเกิดนิมิตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งชุดไทยโบราณมากราบไหว้หลวงพ่อนิลมณีหน้าโบสถ์ปรกโพธิ์เป็นประจำ

      ต่อมาไม่นาน เสาคานที่หน้าโบสถ์ หล่นตกลงมาพิงอยู่ข้างๆ คืนนั้นเอง ท่านได้นิมิตเห็นผู้หญิงชุดไทยคนเดิมมาบอกให้นำไม้ท่อนนี้มาไว้ที่หลังอุโบสถแล้วให้สร้างศาลด้วย

     พระวินัยธร องอาจอาริโย ได้ให้ชาวบ้านช่วยกันนำไม้มาไว้หลังโบสถ์แล้วสร้างศาลให้ตามนิมิต นำไม้ท่อนนั้นแกะสลักเป็นรูปหน้าผู้หญิงไม่มีแขนขาไว้ภายในให้ชื่อว่า ศาลนางไม้เจ้าจอม นั่นเอง ชาวบ้านท้องถิ่นให้ความเคารพนับถือกันมาก เพราะมีความศักดิ์สิทธิ์

      นอกจากนี้ ใกล้ๆ กับวัดบางกุ้งยังมี กำแพงจำลองของค่ายบางกุ้ง รูปปั้นแม่ไม้มวยไทย โดยรูปปั้นแต่ละคู่จะเป็นท่ามวยไทยต่างๆ ให้ได้ศึกษา และยังเป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : หมู่ 4 อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.30 น.

หน้า: [1] 2 3 ... 25
ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google